Saturday, October 1, 2011

[Th-Trans] สัมภาษณ์ โทโฮชินกิ ใน MORE (พฤศจิกายน 2011) - เราไม่จำเป็นต้องใช้คำพูดใดๆ

โทโฮชินกิ

[ เราไม่จำเป็นต้องใช้คำพูดใดๆ ]

"ถ้าหากผมต้องเปรียบเทียบเขากับตัวละครใน ONE PIECE เขาก็คงเป็น Zoro
เขาเท่ สงบนิ่ง แต่ก็มีหัวใจที่กระตือรือร้น!" (ยุนโฮ)


"พี่ยุนโฮต้องเป็น Ruffy อย่างแน่นอน! เพราะเขาเข้มแข็งและทรงพลัง" (ชางมิน)

Q: ผ่านมาแปดปีแล้วตั้งแต่คุณรวมตัวเป็น โทโฮชินกิ มีอะไรเปลี่ยนไปและมีอะไรที่ไม่ได้เปลี่ยนไปบ้าง?
 ✮ ยุนโฮ: เมื่อก่อน ชางมินเข้มงวดกับตัวเองมากเกินไปและมักจะปิดบังความรู้สึกของตัวเอง บางครั้งก็ดูจะตึงเครียดมาก แต่เดี๋ยวนี้เขาเปิดใจต่อทีมงานของเรา ผมคิดว่าเขาได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เท่และมีเสน่ห์ครับ
 ❤ ชางมิน: พี่ยุนโฮเป็นคนที่มีจิตใจบริสุทธิ์ สิ่งนี้ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย เขาไม่เคยหยุดวิ่งตามความฝันที่มีตั้งแต่ก่อนเดบิวต์ และเขาก็ทุ่มเทความพยายามทุกอย่างเพื่อทำให้ฝันกลายเป็นจริง มันน่าทึ่งที่ผู้ใหญ่อย่างพี่ยุนโฮยังคงมีหัวใจที่บริสุทธิ์เหมือนกับเด็กชายตัวน้อย

~ ~ ~ ~ ~
Q: คุณได้แนะนำอะไรให้แก่กันหรือเปล่าในช่วงนี้?
 ✮ ยุนโฮ: เขาแนะนำ ONE PIECE ให้ผม แล้วผมก็ติดครับ ตัวละครโปรดของผมคือ Zoro เขากระตือรือร้น และเมื่อตัดสินใจที่จะทำอะไรบางอย่างก็จะทำให้สำเร็จ แล้วเขาก็มีด้านที่ช่างเหน็บแนมด้วย เขาเหมือนกับชางมิน (หัวเราะ) ผมคงเป็น Ruffy ครับ Zoro ควบคุม Ruffy ความสัมพันธ์ของพวกเขาคล้ายๆกับของเรา
 ❤ ชางมิน: ผมเห็นด้วยครับ เขาเหมือนกับ Ruffy! เขาชอบแกล้งคนอื่นและมักจะทำให้ผมประหลาดใจด้วยความคิดที่คาดไม่ถึงเลย แต่เขาก็พูดได้เยี่ยมเวลาที่มีเรื่องสำคัญ

~ ~ ~ ~ ~
 Q: คุณจำความรู้สึกแรกตอนที่พบกันได้ไหม?
 ❤ ชางมิน: แน่นอนครับ ผมเจอเขาในห้องฝึกซ้อมที่ออฟฟิศของเราตอนที่ผมอยู่ชั้นมัธยมต้นปี 3 ความรู้สึกแรกตอนที่ได้พบพี่ยุนโฮก็คือเขาเป็นลูกพี่ชายและทรงพลัง เขาบอกกับผมว่า "เลิกไปเลยถ้านายคิดจะทำแบบครึ่งๆกลางๆ นายควรจะเอาจริงเอาจัง" (หัวเราะ)
  ✮ ยุนโฮ: ตอนนั้นผมเสียใจกับการที่เด็กฝึกหัดถอนตัวออกไปอย่างรวดเร็ว ผมก็เลยเข้มงวดกับคนที่มาใหม่ ความรู้สึกแรกตอนที่พบชางมินก็คือ เขาเหมือนนักเรียนประถมครับ (หัวเราะ) เขาเงียบ แต่ก็ตั้งใจฝึกซ้อมอย่างหนัก

~ ~ ~ ~ ~
Q: คุณจะเปิดตัวอัลบั้มหลังจากที่ผ่านมานาน เพลงไหนเป็นเพลงโปรดของคุณ?
 ❤ ชางมิน: ผมเลือก Duet เพราะเป็นแนวเพลงใหม่ที่เราลองร้องกันเป็นครั้งแรกครับ เราถามผู้กำกับหลายครั้งว่าเราร้องได้โอเคไหม แต่พอผมได้ฟังเพลงที่อัดไว้ ผมก็พบว่าตัวเองกังวลไปเสียเปล่า มันเป็นเพลงที่พวกเราในวันนี้เท่านั้นที่จะสร้างขึ้นมาได้
 ✮ ยุนโฮ: ผมเลือก Weep ครับ ผมชอบเนื้อเพลงและดนตรีก็จำง่าย ผมว่าเราสามารถร้องไปพร้อมๆกับผู้ชมในคอนเสิร์ตได้ แล้วเพลงนี้ก็ให้กำลังดีด้วยครับ

~ ~ ~ ~ ~

[ ความสุขใจเพิ่มขึ้นสองเท่าและความทุกข์ก็ลดลงครึ่งหนึ่งเมื่อเราอยู่ด้วยกัน ]

ก่อนที่พวกเขาจะขึ้นไปยืนบนเวที พวกเขาต้องทำอะไรบางอย่างก่อน พวกเขายืนล้อมวงกับแดนเซอร์เพื่อตะโกนปลุกใจกัน เมื่อทั้งสองอยู่ข้างเวที พวกเขาก็จะชนกำปั้นกันเบาๆโดยไม่พูดอะไร ทั้งสองบอกว่าเป็นการทำให้มีชีวิตชีวาเพิ่มขึ้น

 ❤ ชางมิน: ผมร้องเพลงบนเวทีมาแล้วแปดปี แต่ก็ยังรู้สึกประหม่าอยู่ ตอนที่เราชนกำปั้นกัน ผมจะได้ยินคำพูดเบาๆของพี่ยุนโฮว่า "มาทำให้ดีที่สุดกันเถอะ!" มันเป็นสิ่งเล็กๆแต่สำคัญมากสำหรับเรา
 ยุนโฮ: ผมก็ได้ยินคำพูดของชางมินเหมือนกันครับ "พวกเราทำได้!"
 ❤ ชางมิน: ถ้าพูดว่า "พวกเราทำได้" ออกมาดังๆ ผมจะค่อนข้างอายครับ (หัวเราะ) เราอยู่ด้วยกันมาแปดปีแล้ว เพราะฉะนั้น คำพูดก็ไม่จำเป็นสำหรับเราอีกแล้ว

พวกเขาอยู่ใต้หลังคาเดียวกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันตั้งแต่เดบิวต์ที่เกาหลีในปี 2004 ระหว่างการให้สัมภาษณ์ ทั้งสองพยักกับคำพูดของอีกฝ่าย และชางมินก็ดูจะภูมิใจกับคำพูดของยุนโฮตอนที่เขาเห็นด้วยกับคำพูดของยุนโฮและบอกว่า "ใช่เลย!" ทัศนคติของพวกเขาบอกเราว่ามิตรภาพของทั้งคู่เป็นอย่างไร ความผูกพันที่ก่อตัวขึ้นในระยะเวลาแปดปีนั้นแน่นแฟ้นมากอย่างน่าทึ่ง ดูเหมือนการหยุดทำกิจกรรมเป็นเวลาประมาณหนึ่งปีครึ่งจนถึงการคัมแบ็คเมื่อเดือนมกราคม จะมีส่วนทำให้ความผูกพันของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นด้วยเช่นกัน

 ✮ ยุนโฮ: ผมคิดถึงกิจกรรมกลุ่มของเรามากตอนที่อยู่ในช่วงพักงาน ทั้งผมและชางมินต่างก็มีละครแยกกัน เราพอใจกับมันแต่ผมเหงาตอนที่ทำกิจกรรมเดี่ยว ประสบการณ์ยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่า "ผมมีความสุขที่ได้อยู่ในวง" ผมรู้สึกมั่นคงเวลาที่มีชางมินอยู่ด้วย และก็รู้สึกสบายใจเพราะเขารู้จักผมดีกว่าใคร เวลาที่เราอยู่ด้วยกัน ความสุขใจเพิ่มขึ้นสองเท่าและความทุกข์ก็เพิ่มขึ้นสองเท่า...
 ❤ ชางมิน: ต้องเป็น "ลดลงครึ่งหนึ่ง" ต่างหาก (หัวเราะ)
 ✮ ยุนโฮ: ใช่ครับ ความทุกข์ลดลงครึ่งหนึ่ง!
 ❤ ชางมิน: ผมไม่เคยมองตัวเองในฐานะศิลปินเดี่ยว "ชางมิน" แม้แต่ตอนที่ถ่ายละคร ผมร่วมแสดงในละครในฐานะ ชางมิน จาก โทโฮชินกิ แน่นอนว่าผมไม่เคยคิดจะกลายเป็นศิลปินเดี่ยวครับ
 ✮ ยุนโฮ: ผมก็เหมือนกันครับ ถ้าหากเราทำงานเดี่ยว เราก็จะเป็น ~~~ จากโทโฮชินกิ สิ่งนี้จะไม่มีวันเปลี่ยน โทโฮชินกิคือบ้านของเรา เราจะกลับมาที่บ้านของเราไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

 "เราอยู่ด้วยกันมาแปดปีแล้ว ในช่วงเวลานั้น ความมิตรภาพของเราก็ไปถึงจุดที่สมดุลที่สุด นี่คือความผูกพันของเราครับ" (ยุนโฮ)

"ไม่มีกฏเกณฑ์ระหว่างเรา การทำตัวสบายๆและเป็นตัวของตัวเองคือสไตล์ของเราครับ" (ชางมิน)

~ ~ ~ ~ ~

[ ความสัมพันธ์ที่ก่อตัวขึ้นบนกฏเกณฑ์จะไม่ลงตัวในที่สุด ]

Q: คำว่า "บ้าน" ทำให้ฉันนึกขึ้นได้ พวกเขาทำอะไรเวลาอยู่บ้านที่อาศัยด้วยกัน?
 ✮ ยุนโฮ: เราชอบเล่นเกมฟุตบอลที่ชื่อว่า "Winning Eleven" ครับ
 ❤ ชางมิน: แต่เราแทบจะไม่ได้เล่นด้วยกันเลย
 ✮ ยุนโฮ: เพราะเราทั้งคู่ต่างก็ชอบเกมนี้ ถ้าเล่นแข่งกัน เราก็อาจจะทะเลาะกัน (หัวเราะ) เพราะฉะนั้น เราเลยต่างคนต่างเล่นถึงแม้จะอยู่ด้วยกันครับ
 ❤ ชางมิน: โอ๊ะ จะมีเวอร์ชั่น 2012 ออกมาในเดือนตุลาคมนี้ ผมตั้งตาคอยมากๆเลยครับ ยิ่งเกมยากมากเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งรู้สึกมีแรงกระตุ้นมากเท่านั้น

เมื่อพูดถึงเรื่องเกม พวกเขาก็คุยด้วยตาที่เป็นประกายวิบวับราวกับหนุ่มน้อย ฉันเลยถามพวกเขาอย่างสนุกสนานว่า "คุณจะทำอย่างไรถ้าหากกลายเป็นอีกฝ่ายหนึ่งเป็นเวลาหนึ่งวัน?" คำตอบที่พวกเขาให้หลังจากเงียบไปพักหนึ่งนั้นตรงไปตรงมาและจริงจังอย่างคาดไม่ถึง และคำพูดก็อธิบายความสัมพันธ์ของพวกเขาได้อย่างดี

 ✮ ยุนโฮ: ผมอยากจะเป็นอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ครับ เพราะเราสมดุลกันในแบบที่เป็นอยู่ ความสมดุลเกิดขึ้นเองในระยะเวลาแปดปีที่ผ่านมา อย่างเช่น เวลาที่ผมรู้สึกไม่ดี ชางมินก็จะทำให้บรรยากาศเบาสบาย และเวลาที่ชางมินเหนื่อย ผมก็จะทำให้บรรยากาศดีขึ้น มันไม่ได้หมายความว่าเรารู้สึกว่าจะต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ เราแค่ช่วยเหลือกันโดยไม่รู้ตัว ผมชอบมิตรภาพแบบนี้มากครับ
 ❤ ชางมิน: ผมก็รู้สึกเหมือนพี่ยุนโฮครับ ผมนึกไม่ออกถ้าหากเราต้องสลับร่างกัน บางคนบอกว่าต้องมีกฏเกณฑ์เพื่อสร้างความสัมพันธ์หรือร่วมงานกัน แต่เราไม่ต้องมีกฏเกณฑ์เพราะเราเข้าใจได้อย่างดีผ่านทางบรรยากาศและการแสดงสีหน้า
 ✮ ยุนโฮ: ใช่ครับ เราไม่จำเป็นต้องบอกความรู้สึกออกมาเป็นคำพูดเพราะเราเข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ผ่านทางการแสดงสีหน้า
 ❤ ชางมิน:  มันจะไม่มีจุดจบถ้าหากเราเริ่มสร้างกฏเกณฑ์ต่างๆ นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ที่ก่อตัวขึ้นบนกฏเกณฑ์จะไม่ลงตัวในที่สุด มันจริงสำหรับทุกอย่างไม่ใช่เหรอครับ? วัตถุที่แข็งแตกหักได้ง่ายภายใต้แรงกดดัน แต่วัตถุที่ยืดหยุ่นไม่แตกหักง่ายๆ ก็เช่นเดียวกันกับถ้าเราทำให้ความสัมพันธ์ยืดหยุ่นและผ่อนปรนอย่างเหมาะสมโดยไม่มีกฏเกณฑ์ ปล่อยให้มันเป็นไป นี่เป็นสไตล์ของเราที่ก่อตัวขึ้นในระยะเวลาแปดปีที่ผ่านมา
✮ ยุนโฮ: ผมคิดว่าความสัมพันธ์แบบนี้จะมีผลดีต่อการแสดงบนเวทีของเรา

พวกเขาจะเปิดตัวอัลบั้มในเดือนกันยายนแล้วจึงเริ่มทัวร์คอนเสิร์ตทั่วประเทศ ที่ข้างเวที พวกเขาจะชนกำปั้นกัน และความผูกพันของทั้งสองก็จะยืดหยุ่นมากขึ้นและแน่นแฟ้นมากขึ้น


*******************************************************************


ถ้าจะเอาออกไป กรุณาเอาเครดิตไปให้ครบค่ะ
Source: MORE November Issue
Translated by: Lisalio @ContinueTVXQ.com
แปลไทย:  (http://twitter.com/minnappe)

No comments:

Post a Comment