JYJ กลับมาอีกครั้งพร้อมกับอัลบั้มใหม่ และเป็นอัลบั้มเกาหลีอัลบั้มแรกที่เปิดตัวกันสามคน ถึงกระนั้น ก็ไม่ได้มีอะไรในอาชีพนักร้องของพวกเขาที่เปลี่ยนไปเท่าไหร่ตั้งแต่อัลบั้มแรกสุด ซึ่งเป็นอัลบั้มภาษาอังกฤษที่วางแผงไปทั่วโลก เนื่องจากเมื่อปลายปีที่แล้ว JYJ มีความขัดแย้งกับอดีตต้นสังกัดซึ่งพวกเขาเคยทำกิจกรรมในนาม TVXQ ดังนั้น นอกจากเพลงในอัลบั้มใหม่ส่วนใหญ่จะแต่งโดยสมาชิกของวงอย่าง คิม แจจุง, ปาร์ค ยูชอน และ คิม จุนซู แล้ว อัลบั้มนี้ก็ยังรวมความเห็นและความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมาของพวกเขาในปีที่ผ่านมาอีกด้วย
10Asia เข้าร่วมงานแถลงข่าวที่จัดขึ้นเนื่องในโอกาสเปิดตัวอัลบั้ม In Heaven และได้ฟังเรื่องงานกลุ่มและงานเดี่ยวของพวกเขา
Q: คุณแต่งเพลงหลายเพลงในอัลบั้มนี้ รู้สึกอย่างไรบ้าง?
แจจุง: เยี่ยมครับ ก่อนอื่นเลย ผมชื่นชมมัน และผมคิดว่ามันเป็นอัลบั้มที่มีความทรงจำมากมาย รวมถึงเรื่องภายในเกี่ยวกับเราในปีที่ผ่านมา เพราะฉะนั้น ขณะที่เรารู้สึกภูมิใจกับมัน มันก็เป็นอัลบั้มที่มีความรู้สึกคิดถึงอยู่มากเช่นเดียวกัน แต่ในเวลาเดียวกัน เราก็ไม่สามารถพูดได้ว่าเราแต่งเพลงแต่ละเพลงขึ้นเพื่ออัลบั้มนี้โดยเฉพาะ เพราะจริงๆแล้วเราแต่งขึ้นสำหรับคอนเสิร์ต เนื่องจากเราไม่สามารถแสดงเพลงของเราให้สาธารณชนหรือแฟนๆเห็นได้ทางโทรทัศน์ด้วยเหตุผลบางอย่าง เพราะฉะนั้น มันจึงมีความสำคัญที่แตกต่างไปสำหรับเราครับ
Q: พวกคุณแต่ละคนแต่งเพลงของตัวเองร่วมกับสมาชิกคนอื่นได้อย่างไร?
แจจุง: เราเข้ากันได้ดีเพราะเราอยู่ด้วยกันมานานจนรู้ความถนัดและจุดอ่อนของแต่ละคนโดยไม่ต้องอธิบาย เรารู้ว่าทำไมถึงให้ใครร้องส่วนไหน และแต่ละส่วนถูกแบ่งออกอย่างไร
จุนซู: ผมมักจะขอความเห็นของทุกคนและพยายามจะไตร่ตรองถึงสิ่งที่พวกเขาพูด เพราะเมื่อทำเช่นนั้น เราก็จะได้ไอเดียใหม่ๆที่แม้แต่ตัวผมก็นึกไม่ถึง และนั่นคือระดับความเชื่อใจที่เรามีต่อกันเมื่อมาถึงเรื่องดนตรี และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงพิจารณาความเห็นของพวกเขาก่อนที่จะเลือกชื่อเพลงของผมครับ
Q: คุณคิดถึงแนวเพลงแบบไหนสำหรับเพลงของคุณ?
จุนซู: ผมเป็นคนแต่ง Mission และ Fallen Leaves สำหรับ Mission ผมพยายามจะสร้างทำนองที่มีจังหวะหนักๆและเสียงที่น่าเกรงขาม ด้วยความคิดที่ว่าอัลบั้มควรจะมีเพลงที่ออกแนวการแสดง และสำหรับ Fallen Leaves ผมแต่งทำนองเพลงก่อน แล้วจึงแต่งเนื้อร้องตอนประมาณตีสองไม่ก็ตีสามตอนอยู่ที่ไต้หวัน และผมอยากจะร้องในสิ่งที่ผมรู้สึกอยู่ข้างในแต่ไม่สามารถถ่ายทอดออกมาได้ ท่อน 'ทาชี ชีจัก (เริ่มต้นอีกครั้ง)' ในตอนท้ายเพลงควรจะร้องแค่ครั้งเดียว แต่ผมอยากให้สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มได้สื่อออกมาเหมือนกัน ยูชอนก็เลยได้ร้องครั้งหนึ่ง แล้วก็พี่แจจุง แล้วก็ผม... รวมกันเป็นสามครั้ง 'ทาชี ชีจัก' เป็นข้อความที่ผมอยากจะสื่อออกไปมากที่สุด
Q: ดูเหมือนว่าคุณได้ใช้เวลาและความพยายามไปมากกับการแสดง คงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าเสียดายที่ KBS ประกาศว่ามันไม่ถูกต้องตามกฏของสถานี
แจจุง: มันน่าผิดหวังแต่มันก็เกิดขึ้นบ่อย แม้กระทั่งศิลปินคนอื่นก็เจอกันครั้งสองครั้งเหมือนกันครับ เราก็เลยไม่ได้ผิดหวังมากในตอนแรก... มันเกิดขึ้นกับเราตอน TVXQ ด้วยเช่นกัน แต่ผมว่าประเด็นคือ 'ทำไม' มันถึงไม่่ผ่านการพิจารณาของพวกเขา สิ่งที่แปลกและน่าหงุดหงิดสำหรับเราก็คือ การที่พวกเขาสร้างคำขึ้นมาจากการตัดสินตามอำเภอใจและใช้จินตนาการโดยไม่ถามความหมายจากผู้แต่งแม้แต่ครั้งเดียว แล้วมาบอกว่ามันไม่ถูกต้องตามมาตรฐานของพวกเขา
Q: ถ้างั้นจริงๆแล้วมันหมายความว่าอะไร?
แจจุง: Performer Success Museum ครับ ทุกๆคนต่างก็อยากเห็นชีวิตตัวเองประสบความสำเร็จ แต่ความสำเร็จนั้นจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อได้รับการช่วยเหลือจากองค์กร ซึ่งคนๆหนึ่งจะได้รับการฝึกฝนจากอีกคน ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากโรงเรียนหรือสถาบันคือพิพิธภัณฑ์ คนที่อยู่ในองค์กรนั้นก็จะโกหกคนที่กำลังตามหาความฝัน พวกเขาแกล้งทำเป็นบอกว่า 'เราแค่อยากช่วยคุณโดยไม่มีค่าตอบแทนใดๆ' นั่นคือสิ่งที่พวกเราพยายามจะบอกออกไป แต่การตีความว่ามันหมายถึง President Soo Man และแจ้งผู้แต่งแบบนั้นเป็นการไม่ให้เกียรติกัน
Q: เนื่องจากเป็นเรื่องยากที่คุณจะโปรโมทเพลงของคุณทางโทรทัศน์ คอนเสิร์ตก็คงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการพบกับแฟนๆ เพราะฉะนั้น คุณก็คงพยายามทำให้มันพิเศษขึ้นด้วยเช่นกัน?
แจจุง: ปกติเวลาที่เราจัดคอนเสิร์ต เราจะแบ่งเวลาไว้เยอะๆเพื่อพูดคุยกับแฟนๆ จนถึงจุดที่คุณไม่สามารถบอกได้ว่ามันเป็นคอนเสิร์ตหรืองานแฟนมีตกันแน่ เนื่องจากเรามีช่องทางในการสื่อสารกับแฟนๆน้อยจริงๆ นั่นคือสาเหตุที่เรามุ่งเน้นเรื่องการร้องเพลงในคอนเสิร์ต ถึงมันจะยาก แต่เราก็พยายามแสดงทุกเพลงและคุยกับแฟนๆให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้กระทั่งเวลาที่เรากำหนดธีมสำหรับคอนเสิร์ตเอาไว้แล้ว สุดท้ายเราก็ลงเอยด้วยการไม่สนใจมันและเล่นสนุกไปทั่วแทนอยู่ดี
Q: คุณจะมีคอนเซ็ปสำหรับทัวร์ที่จะมีขึ้นในยุโรปไหม?
ยูชอน: เราจะไม่พยายามเปลี่ยนสไตล์ของตัวเองเพื่อให้เข้ากับสถานที่แสดงนั้นๆครับ เราอาจจะเปลี่ยนลิสการแสดง แต่ในภาพรวม เราจะพยายามผสมผสานสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเรากับวัฒนธรรมของประเทศนั้น
Q: แต่มันไม่เป็นเรื่องยากที่จะคาดการณ์คนที่มาร่วมงานสำหรับประเทศอย่างสเปนเหรอ?
จุนซู: 'เราจะทำสำเร็จไหม?' เป็นสิ่งที่เราพูดในทัวร์คอนเสิร์ตที่อเมริกาปีนี้ เพราะเราเคยไปลอสแองเจลิสแต่ไม่เคยไปที่แวนคูเวอร์หรือนิวยอร์ค อย่าว่าแต่นิวเจอร์ซี่เลยครับ แต่เราก็พบว่าจริงๆแล้วมีแฟนๆที่รอเราในเมืองเหล่านั้นมากกว่าที่คิดไว้ เราเลยรู้สึกกดดันและกังวล แต่ก็พยายามคิดบวก การที่มาได้ไกลถึงขนาดนี้ถือเป็นปาฏิหาริย์ เราจึงได้แต่หวังว่าปาฏิหาริย์นี้จะยังคงอยู่ต่อไป และเราก็เพิ่งได้ยินว่าตั๋วคอนเสิร์ตที่สเปนกว่า 80% ขายหมดแล้ว เราดีใจมากที่ได้ยินแบบนี้ครับ
Q: คอนเสิร์ตของพวกคุณอาจจะเป็นไปได้ด้วยดีจนถึงตอนนี้เพราะพวกคุณมีฐานแฟนคลับที่มั่นคง แต่คุณจะต้องหาแฟนคลับเพิ่มเช่นกัน คุณจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้?
จุนซู: สิ่งที่ผมรู้สึกได้อย่างแน่นอนหลังจากที่ยูชอนแสดง SungKyunKwan Scandal จบคือเรามีกลุ่มแฟนคลับใหม่ที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง ...ผมไม่แน่ใจสำหรับพี่แจจุงเพราะ Protect The Boss เพิ่งจบลง ผมเคยจำแฟนๆส่วนใหญ่ได้ อย่างน้อยก็หน้าตาถึงแม้ไม่ใช่ชื่อ เพราะเราเจอพวกเขาบ่อยมากจริงๆ แต่แฟนๆกลุ่มใหม่... พวกเขาแตกต่างอย่างสิ้นเชิงทั้งในเรื่องของการแต่งตัว และ...ดูเหมือนบางคนจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นนักร้อง พวกเขาคิดว่ายูชอนเป็นนักแสดงหน้าใหม่ แต่ก็มาพบว่าเขาเป็นนักร้องและเกิดความสงสัยว่าผู้ชายอีกสองคนข้างๆเขาคือใครกัน
แจจุง: พวกเราโชคดีมาก ปกติแล้วฐานแฟนคลับของนักร้องจะมีเท่าเดิมหรือไม่ก็เปลี่ยนไป แต่เรามีแฟนๆที่อายุมากขึ้นไปด้วยกัน รวมถึงมีแฟนคลับใหม่ๆและแฟนๆที่อาวุโส ผมเลยคิดว่าพวกเราโชคดีอย่างมากเลยครับ (หัวเราะ)
อ่านต่อ ** พาร์ท 2 **
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ถ้าจะเอาออกไป กรุณาเอาเครดิตไปให้ครบค่ะ
Credit: 10Asia
แปลไทย: @minnappe (http://twitter.com/minnappe)
No comments:
Post a Comment