หมายเหตุ: บทความด้านล่างเป็นสัมภาษณ์ของ คุณ อี ซูมาน ประธานบริษัท SM Entertainment เกี่ยวกับเคล็ดลับของการทำงานในแวดวงศิลปะวัฒนธรรม
ผู้ชมกว่า 55,000 คนโบกลูกโป่ง และราวกับลูกคลื่น พวกเขาลุกขึ้นและลดตัวลง สำหรับการแสดงยาว 5 ชั่วโมง 30 นาที ซึ่งมีอย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุดพัก ผู้ชมต่างก็เกือบจะยืนดูกันตลอดทั้งงาน ทุกครั้งที่ SNSD, TVXQ และ Super Junior ปรากฏตัว พวกเขาก็ร้องเพลงไปด้วยกันและหลั่งน้ำตา
# มีความจำเป็นสำหรับการเปลี่ยนแปลงในระบบ เพื่อแยกตัวออกมาจากโอกาสที่มาจากความบังเอิญและการเสี่ยงโชค #
การลงเอยกับสัญญาระยะ 13 ปี SM Entertainment ถึงกับท้าทายความขัดแย้งในเรื่อง "สัญญาทาส" (หลังจากการประชุมกับคณะกรรมการกำกับการแข่งขันทางการค้าแห่งประเทศสาธารณรัฐเกาหลี (KFTC) สัญญาในเกาหลีก็ถูกปรับเปลี่ยนให้เหลือ 7 ปี และหากศิลปินมีความก้าวหน้าไปในต่างประเทศ สัญญาก็ลดเหลือ 10 ปี) สำหรับเด็กฝึกหัดหรือแม้แต่บริษัทเอง ไม่ต้องสงสัยเลยว่า 13 ปีถือเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน แต่นั่นเป็นเพราะในช่วงเวลานั้น พวกเขาต้องทำหน้าที่รับผิดชอบและได้ให้สัญญาที่จะเลี้ยงดูปลุกปั้น
ประธาน อี ซูมาน เผยว่าหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้เคป๊อปได้เผยแพร่ไปทั่วโลกก็คือระบบที่ใช้สัญญาระยะยาว
"แม้แต่อเมริกาก็ยังไม่สามารถใช้ระบบแบบเราได้ หลังจากเลือกเด็กฝึกหัดแล้ว เราก็จะเซ็นสัญญาระยะยาวกับพวกเขาและอบรมดูแลด้วยการฝึกฝนเป็นเวลานาน ระบบแบบนี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในอเมริกา แม้อเมริกาจะมีระบบต้นสังกัด นักร้องและคนดังก็ต้องเติบโตและพัฒนาตนด้วยตัวเอง ระบบของพวกเขาคือการปล่อยให้เรื่องเหล่านี้เป็นหน้าที่ของผู้ทำสัญญาช่วง อย่างไรก็ตาม บริษัทต้นสังกัดบางแห่งก็ต้องตกอยู่ในความวุ่นวายและไม่สามารถลงทุนกับดาวรุ่งของพวกเขาในระยะยาวได้ แต่ในเกาหลีหรือญี่ปุ่นซึ่งวงการศิลปะวัฒนธรรมพัฒนาทีหลัง พวกเขาสามารถทำสัญญาได้อย่างอิสระ ดังนั้น การลงทุนในระยะยาวจึงสามารถเกิดขึ้นได้"
# วิธีบริหารจัดการของ อี ซูมาน คือ "ใจเย็น/อดทน" #
เมื่อเร็วๆนี้ SM Entertainment เตรียมเดบิวต์ทีมใหม่ พวกเขาสร้างทีมสองทีมโดยมีคอนเซ็ปใกล้เคียงกัน ทีมหนึ่งจะอยู่ที่เกาหลี ในขณะที่อีกทีมจะโปรโมทในประเทศจีนไปพร้อมๆกันโดยใช้เพลงเหมือนกัน ชื่อชั่วคราวของพวกเขาคือ M1 และ M2 เพื่อแต่งเพลงหลักสำหรับทั้งสองทีมจึงมีการจัด "Music Camp" ขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาในเดนมาร์คและนอร์เวย์ นี่เป็นงานที่มีนักแต่งเพลงราว 50 คนจากทั่วโลกมารวมตัวกัน และในเวลา 3-6 วัน พวกเขาก็ได้แต่งเพลงให้กับ SM Entertainment ฝ่าย SM ก็เผยโฉม M1 และ M2 และอธิบายถึงคอนเซ็ปที่พวกเขาต้องการ ทำนองที่ใช้ โดยให้อิสระในการแต่งเพลงแก่พวกเขา อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีงานเช่นนี้ขึ้นสองครั้ง เพลงหลักของ M1 และ M2 ก็ยังไม่ถูกเลือก
"ไม่ว่าจะมองอย่างไร เงินก็ถูกใช้จับจ่ายไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เราก็ทำสิ่งเหล่านี้เสมออยู่แล้ว SM Entertainment มีจุดแข็งอยู่สามอย่าง อย่างแรกคือการฝึกฝน อย่างที่สองคือการพัฒนาอย่างมีระบบ อย่างที่สามคือการเน้นความสำคัญของเพลง ปกติแล้วการจะเริ่มระบบใหม่ใช้เวลาประมาณ 4 ปี เพื่อที่จะแต่งเพลงให้กับ TVXQ เราได้รวบรวมนักแต่งเพลงกว่า 50 ชีวิต และแค่จุดเริ่มต้นของการเดบิวต์ของ TVXQ เราก็ทุ่มทุนไปกว่า 4 พันล้านวอน (106.4 ล้านบาท) นอกจากนี้ ก็ยังมีค่าโปรโมทอัลบั้มซึ่งรวมกันเป็นอีก 4 พันล้านวอน"
"หลังจากโบอาได้รุดหน้าไปยังประเทศญี่ปุ่นอย่างประสบความสำเร็จ เราก็เริ่มคิดคอนเซ็ปเพื่อสร้างทีมที่ดีที่สุดซึ่งจะสามารถประสบความสำเร็จได้ไม่เพียงแต่ในเอเชียเท่านั้น แต่เป็นทั่วโลก อย่างไรก็ตาม เพราะทรัพยากรที่มีจำกัด การคัดเลือกและการโฟกัสจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น ดังนั้น เราจึงเลือกคนที่ยอดเยี่ยมที่สุดจากหลายๆทีมเพื่อรวมกันเป็นทีมเดียวที่จะสามารถท้าทายการแข่งขันใหญ่ได้ และผลลัพธ์ก็คือ TVXQ ได้กำเนิดขึ้น"
"พอมาถึงจุดนี้ ทีมที่ไม่ได้รับการคัดเลือกก็ต้องสลายตัว อย่างไรก็ตาม เพราะเราได้เซ็นสัญญากับพวกเขาแล้ว เราจึงจะรับผิดชอบพวกเขาอย่างแน่นอน ดังนั้น เราจึงสร้างทีมที่แสดงได้ดีและมีทักษะที่หลากหลายขึ้นมา ทำให้เราได้ก่อตั้ง Super Junior ขึ้น เพื่อที่จะอยู่รอดต่อไป เพื่อนๆเหล่านั้น(หมายถึง Super Junior) ต้องเสียหยาดเหงื่อและน้ำตา และเพราะเราเองก็สงสารพวกเขา เราจึงต้องให้ความช่วยเหลือเช่นกัน"
ตอนนี้มันกลายเป็นสถานการณ์ที่ Super Junior ไม่เคยคาดคิดมาก่อน พวกเขาเป็นนักร้องที่ได้ขึ้นไปยังจุดสูงสุดในยุโรป ประเทศไทย และ อเมริกาใต้
# "ทำให้เกาหลีเป็นฮอลลีวู้ดแดนตะวันออก" #
คำถาม - "คอนเสิร์ตของ SM TOWN มีกำหนดจะจัดขึ้นใน Madison Square Garden ที่ลองแองเจลิส นี่หมายความว่า SM จะเดินหน้าทำกิจกรรมอย่างเต็มกำลัง โดยมีเป้าหมายที่จะมุ่งหน้าไปยังอเมริกาใช่หรือเปล่า?"
ประธาน อี ซูมาน กล่าวว่า "ไม่ใช่แบบนั้นครับ แทนที่จะบอกว่าเรากำลังรุดหน้าไปยังอเมริกา SM TOWN เป็นวิธีที่ทำให้เราได้เยี่ยมเยียนมิตรสหายในหลายๆประเทศมากกว่า ในอนาคต ตลาดของจีนและเอเชียจะใหญ่ขึ้นเมื่อเทียบกับอเมริกา ดังนั้น จึงไม่มีความจำเป็นจริงจังที่จะต้องไปอเมริกา ในอนาคตอันใกล้ เมื่อฮอลลีวู้ดปรากฏขึ้นในแดนตะวันออก ศูนย์กลางแห่งความหลากหลายของวัฒนธรรมก็จะเคลื่อนตัวเข้ามาในแถบนี้ และมีบางคนที่บอกว่าอเมริกาไม่เข้าใจเพลงตะวันออก? แต่นั่นก็ไม่สำคัญแม้แต่น้อย เพราะศูนย์กลางแห่งวัฒนธรรมจะมาอยู่ที่เอเชียเร็วๆนี้"
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ถ้าจะเอาออกไป กรุณาเอาเครดิตไปให้ครบค่ะ
Source: chosun
Translated by: CTVXQstaff_mug_ping @ ContinueTVXQ.com
แปลไทย: @minnappe (http://twitter.com/minnappe)
No comments:
Post a Comment