> เนื้อเพลงที่ยูชอนร้องจริงๆ กับเนื้อเพลงที่เขาเขียนเอาไว้ใน essay
จะต่างกันเล็กน้อยนะ <
(cr: jeeelim5)
********************
ผมเคยบอกคุณมั้ย
หลังจากการทดสอบเป็นระยะเวลาไม่กี่เดือนในปี 2003 เรา
เมมเบอร์ทีม ทำงานแรกเสร็จด้วยความรู้สึกสบาย
ในปี 2004 พวกเราเป็นพนักงานของเดือน มีผลลัพธ์อันดับหนึ่งจำนวนมาก
แต่พวกเรายังไม่รู้สึกพึงพอใจ เพราะแบบนั้น
เราเลยไม่สามารถควบคุมพวกเราและต้องการเพี่มขึ้นเรื่อยๆ
2005 พวกเราเรี่มลงทุนไปที่ตลาดต่างประเทศ
พวกเราคิดว่าทุกอย่างจะผ่านไปอย่างเรียบง่ายเหมือนที่เกาหลี
แต่ในตอนแรกที่พวกเราได้ลอง พวกเราได้รับผลตอบรับที่แย่ที่สุด
และนั่นเป็นครั้งแรกที่ความมั่นใจของผมลดลง
ภาษาที่พวกเราพูดไม่ได้
ทุกวันพวกเราจะอยู่ในที่พักหรือที่ออฟฟิศ
การกักขังที่เขาบอกว่าไม่ใช่ บอกว่ามันเพื่อเราเอง
การอยู่อย่างโดดเดี่ยว น้ำตาและคาวมเดือดดาลที่มากเกินไป
นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเราเป็นหนึ่งเดียว
พูดว่าพวกเราไม่สามารถแยกทางกันได้แม้ว่าอะไรอะไรขึ้น
พูดว่าพวกเราควรอยู่ด้วยกันตลอดไป
พูดว่าพวกเราควรทำตามสิ่งที่ดีของกันและกัน
พวกเราพูดสิ่งนี้ในหัวใจและวิ่งต่อไป
วันนึงผมไปถึงที่สูงสุดที่พวกเราต้องการอย่างจริงจัง
เราหยิบโทรศัพท์และติดต่อครอบครัวและเพื่อนๆ
วันนั้นมาถึงแล้ว
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาทุกอย่างที่เรี่มไว้ดีขึ้นเรื่อยๆ
เพลงที่อัดขายได้เป็นร้อยเป็นพัน การชนะรางวัลนี้รางวัลนั้นและการได้รับผลลัพธ์ของการทำงาน
มันรู้สึกเหมือนว่า เวลาที่เราร้องไห้ น้ำตาของพวกเราจะตกอย่างเบาๆ
สาเหตุที่พวกเราดีใจมากกว่าเศร้าใจ
เราที่ไม่เคยละทิ้ง และวิ่งไปจนถึงสุดทาง
สาเหตุที่พวกเราแข็งแกร่ง/มั่นคงว่าอะไรทุกอย่าง เพราะพวกเราเป็นหนึ่งเดียว
คุณเปลี่ยนไปแล้ว (ผมไม่สามารถอยู่ในสภาพนั้นอีกตลอดไป)
ผมจะเป็นคนแรกที่หันหลังให้คุณ (ผมร้องไห้ตลอดไปไม่ได้)
ผมจะเรียกชื่อคุณ แม้ว่าคุณจะห่างไปไกล (บินผมขึ้นไป ขึ้นไปบนท้องฟ้าอันนั้น)
เราวิ่งด้วยกันเป็นระยะเวลานึงแล้ว
ตอนที่พวกเราถูกล้อมด้วยกำแพงขนาดใหญ่ที่พวกเราไม่ได้คาดการณ์ไว้
รอบนึงแล้ว ที่มันเกิดขึ้น
ด้วยรายจ่ายทางธุรกิจที่เพี่มขึ้น และหนี้ที่เพี่มขึ้น
สถานการณ์กลายเป็นสิ่งๆนึงที่ผมไม่สามารถรับได้คนเดียว
CEO ของพวกเราเคยบอกสิ่งนี้กับพวกเรา
บอกมาได้ถ้าต้องการอะไร เพราะพวกเราจะเป็นครอบครัวของกันและกันตลอดไป
บอกมาได้ถ้าต้องการอะไร
ตอนที่ผมนึกถึงคำพวกนั้น ผมนำความกล้าหาญของผมและโทรไปหาเขาเพื่อขอความช่วยเหลือ
แม้ว่าจะมีความรู้สึกแปลกๆข้างใน เขาเป็นคนเดียวที่ผมสามารถเชื่อใจได้ในตอนนั้น
เพราะเราเป็นครอบครัวที่จะอยู่ด้วยกันตลอดไป
แม้ว่าผมจะสร้างความกล้าหาญเพื่อขอความช่วยเหลือกับเขา สิ่งที่ผมได้รับคือการปฏิเสธที่เย็นชา
คำพูดของเขาทำให้ผมโกรธมาก แต่ผมก็ยับยั้งความรู้สึกและขอให้เขาช่วยอีกครั้ง
เขาวางสายใส่ผม
ผมไม่สามารถหยุดน้ำตาที่ไหลลงหน้าผมได้
ผมไม่สามารถคิดอะไรได้เพราะเขาไม่ได้เป็นครอบครัวที่ผมนึกว่าเป็นมาตลอด
ตอนที่เขาต้องการเรา เราเป็นครอบครัวให้เขา
แต่ตอนที่เราต้องการเขา พวกเขาเป็นคนแปลกหน้า
มีหลายสิ่งหลายอย่างที่น่าประหลาดใจเกิดขึ้นหลังจากที่เวลาผ่านไป
เมื่อได้ยินว่าพวกเราได้ระดับทองที่ต่างประเทศ และได้รับผลลัพธ์ที่ใหญ่โตมากกว่า
ที่จะสามารถจิตนาการได้
ผมเดินเข้าไปที่ออฟฟิศด้วยความรู้สึกดีใจเพื่อไปรับค่าแรงของผม
เมมเบอร์มองกันและกันด้วยสายตาดีใจ
เราชมกันและกันว่าเราทำงานหนักกันขนาดไหน
แต่รายงานการเงินที่พวกเราได้รับบอกว่าพวกเราขาดทุน
ผมคิดว่าผมเห็นตัวเลขผิดเลยเช็คอีกรอบ
ทุกอย่างที่เขียนไว้ลงรายการอยู่ในร่ายจ่าย
ให้ตายถอะ เงินทั้งหมดมันจะไปอยู่ที่รายจ่ายได้ยังไง
ต้องจ่ายอะไรที่ทำให้เงินหายไปขนาดนั้น?
ผมไม่สามารถเชื่อสิ่งที่เห็นได้ ผมเลยขอให้พวกเขาโชว์บัญชีการเงินที่ผมไม่ได้เห็นมาก่อน
พวกเขาบอกว่าจะโชว์ให้ผมดู แต่ผมกลับไม่ได้เห็นกระดาษจำนวนไม่มากนั่น ระหว่างนั้นสิ่งผมทำอย่างเดียวคือทำงาน
คำถามจำนวนมากเพี่มขึ้นระหว่างที่เวลาผ่านไป
อาการปวดหัวเพี่มขึ้นเรื่อยๆตอนที่เมมเบอร์มานั่งคิดด้วยกัน
ถ้าผมสามารถบอกสิ่งสุดท้ายได้
ทุกอย่างที่พวกเราทำให้บริษัท
จริงๆแล้วเป็นสิ่งที่ทำให้บริษัททั้งนั้นใช่มั้ย?
ใช่ เรา มนุษย์ที่มีจิตใจดี จะปล่อยให้สิ่งๆ นั้นผ่านไป
พวกเราจะลืม สำหรับบริษัท และสำหรับเรา ที่อยู่ด้วยกันมานานหลายปี
แต่นั่นไม่ถูกต้อง นั่นไม่ใช่สิ่งที่คุณควรพูดกับเรา
คุณวางแผนจะทำให้พวกเราผิดหวังจนวินาทีสุดท้ายรึเปล่า?
ตอนที่คุณโทรมา สิ่งที่คุณพูดมันลับหลังเมมเบอร์ทั้งนั้น แต่ก่อน มันยากที่จะเชื่อใจคุณ
นั่นเป็นสิ่งที่รุ่นพี่เราบอก
คุณยังอยากจะเก็บคนที่ต้องการจะทำเงินให้คุณอยู่อีกเหรอ?
รุ่นพี่คนนึงบอกกับผมว่าครอบครัว บริษัทที่พูดอยู่ตลอดเวลา
เป็นสิ่งที่ทำให้พวกเรามีชีวิตรอดต่อไปได้ยากถ้าเราออกจากบริษัท
คำพวกนั้นไม่ออกไปจากหัวของผมเลย
แม้ว่าผมจะมีอะไรอีกมากที่จะพูด
ผมพูดไม่ได้เพราะผมรู้สึกท้อแท้กับความคิดที่ว่าจะมีคนทรมานพวกเราอีก
เมื่อเพลงนี้ปล่อยตัวไป
ถึงอย่างไรก็ตาม แม้ชีวิตจะลำบาก พวกเราก็ทำงานหนักและสบายดี
พวกเราพยายามจะยิ้มแม้ว่าพวกเราจะถูกทรมานโดยใครซักคน
ความพยายามของเราไม่ใช่ความพยายามที่บริสุทธิ์
มันเป็นความพยายามที่ถูกผลักดันโดยความคิดที่ว่า
พวกเราอยากตายโดยไม่เสียใจ ตอนที่พวกเราจากโลกนี้ไป
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
Translated by jeeelim5@tohosomnia.net
Credits: DC Gall for the lyrics
Thai Trans: @AD2055 (http://www.twitter.com/AD2055)
********* TAKE OUT WITH FULL CREDITS *********
Shared by: keep.faith2011~★
No comments:
Post a Comment